เรื่องสั้น Ami ท่องโลกทิพย์ คืนแรกที่ USA ตอนที่ 1 คำพูดพาข้ามทะลุมิติ #นิยายอดีตข้ามทะลุมิติ #นิยายรัก #นิยายอดีตชาติ #นิยายแฟนตาซีน

 


Ami ท่องโลกทิพย์ คืนแรกที่ USA ตอนที่ 1 คำพูดพาข้ามทะลุมิติ

คืนแรกเจอดี  เป็นเรื่องแปลก ท่องโลกมิติที่สาม โลกทิพย์เมืองลับแล ผู้คนที่นั่นใช้ชีวิตที่แตกต่างจากมนุษย์ พวกเขาไม่ใช้ภาษาคำพูด แต่พวกเขาใช้เพียงแค่ส่งกระแสจิตความคิดพูดคุย สร้างสิ่งต่างๆ 

#นิยายอดีตอนาคปัจจุบัน #นิยายรักโรแมนติก #นิยายรักข้ามชาติ #นิยายสั้นทะลุมิติ #นิยายข้ามกาลเวลา #นิยายแฟนตาซีน #นิยายต่างแดน #นิยายโลกทิพย์ #นิยายจิตวิญญาณจิตใต้สำนึก


ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

ประสบการณ์เรื่องสั้น ... คืนหนึ่งในวันแรกที่มาถึงประเทศสหรัฐอเมริกา เมือง Avalon ,NJ คืนนั้นอากาศแสนหนาว ลมพัดแรงมาก ความแรงของล้มทำให้ใบไม้ปลิวไหวไปมา ธงประจำชาติที่ติดไว้ตามบ้านสะบัดสั่นไหว ขณะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน จุดเริ่มต้นจากคำทักทายที่ส่งให้ลุงชายแกคนหนึ่ง  เป็นเหตุนำพาให้เดินทางข้ามไปอีกโลกมิติหนึ่ง ทำให้เจอสิ่งมหัศจรรย์มากมาย  ทั้งหมดนี้ อยู่ในเรื่องที่จะเล่าต่อไป

ฉันเขียนเรื่องสั้นนี้ขึ้นมา  ในขณะเวลาเย็น ใกล้หกโมงเย็น ที่อากาศภายนอกหนาวเย็นจนถึงมือไม้สั้น มันหนาวถึงขั้วหัวใจ ฉันกำลังหนาวมาก มือของฉันมันเย็นถึงขั้นซีดเหลือง ความหนาวเย็นมันทำให้ฉันสั้นจับใจ  หากจับไปที่มือของฉันมันเหมือนคนกำลังจะไปจากโลกใบนี้ มันเย็นมาก ...

มีเสียงของโจคนรักของฉัน เขาพูดขึ้นพร้อมกับนำมือของเขามาจับที่มือของฉัน  “ทำไมมือคุณเย็นและเหลืองมาก เหมือนคนที่จากไปแล้ว...”   เขาพูดพร้อมกับลูบมือของฉันไปมาเพื่อทำให้ฉันอบอุ่น  

สำหรับฉัน ผู้ที่ไม่เคยใช้ชีวิตในต่างประเทศและมีอุณหภูมิที่ติดลบมากๆ ขนาดนี้ ฉันไม่เคยเจออากาศหนาวมาก มันหนาวสุดใจอยากตะโกนร้องออกไป .."ฉันไม่ชอบมันเลย”..ในขณะที่ฉันคิดกับตัวเองอยู่นั้น  โดยไม่ได้พูดตอบคำถามของสามีของฉัน  โดยที่ฉันกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะสีน้ำตาลและมีเก้าอี  3 ตัวอยู่ใกล้ๆ  เป็นมุมทำงานของฉันในบ้านหลังนี้  เขาไม่ได้นั่งกับฉัน  เมื่อเขาพูดเสร็จเขาก็เดินไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารมือเย็น

ฉันกำลังนั่งเตรียมจะเขียนหนังสือเรื่องใหม่ และฉันก็พรางคิดถึง  คืนแรกที่ฉันมาถึงที่นี่  และสิ่งที่ฉันไม่คลาดคิดมาก่อนว่า ฉันได้เจอสิ่งนี้ที่นี่...เมืองนอกเมืองนา .."มันมีสิ่งนี้ด้วย....ฉันไม่อยากเชื่อเรื่องนี้มันได้เกิดขึ้นกับฉัน"  ฉันได้ไปท่องโลกมิติที่สามหรือโลกทิพย์มาแล้ว ฉันเห็นชีวิตของผู้คนในมิติอื่น พวกเขามีความแตกต่างจากมนุษย์มาก "นี่ฉันเจอกับตัวฉัน มันเกิดขึ้นจริง หรือมันเป็นเรื่องแค่ความฝัน..”  ฉันถามตัวเอง    

มันเป็นเรื่องลี้ลับมหัศจรรย์แปลกๆ  ฉันได้เดินทางไปในเมืองหนึ่งที่ไม่ใช่โลกใบนี้    ฉันคิดว่านั้น คือ โลกทิพย์หรือเมืองลับแลของที่นี่ เมืองนี้อยู่ใกล้ทะเล ฉันเจอเรื่องแปลกหลายเรื่อง  ทั้งเหตุการณ์ชายหาด ผู้คนที่ฉันเห็นที่ชายหาดที่ฉันเข้าใจว่าเป็นมนุษย์ แต่มันไม่ใช่เลย  ทะเลนำพาบางสิ่งมาให้ฉัน  เพียงแค่ฉันคิด..  

เรื่องสั้นนี้  เป็นเรื่องจริงบางส่วนแต่งเติมเพื่อความบันเทิงบางส่วน  มีตัวละครที่เกี่ยวข้องดังนี้

ฉัน คือ Ami   แสดงเป็นผู้เล่าเรื่อง ตัวนำเรื่อง

สามี คือ โจ   แสดงเป็นคนรัก (สามี)  ผู้ช่วยชีวิต

ลุงชายแก คือ  ชายที่เปลี่ยนไปเป็นหนุ่ม ตามหาคนรักในอดีต  

ผู้เขียนนำเรื่องสั้นมาเขียนครั้งแรก  หากเขียนแล้วภาษาผิดหรือใช้คำไม่ถูกต้อง ต้องขออภัยด้วยนะคะ

ตอนที่ 1 คืนแรกที่ USA   คำพูด พาข้ามทะลุมิติ เมืองลับแล

ฉันได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเก่าหลังหนึ่ง เมื่อปี 2021 ในเมือง Avalo ,New Jersey ช่วงที่มีโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก บ้านหลังนี้คาดว่ามีอายุยาวนานมากกว่า 100 ปี มีการปรับปรุงหลายครั้ง คนรักของฉัน (สามีปัจจุบัน)  เขาพึ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ 3 เดือน  ฉันเป็นคนไทยย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กับคนรัก  คนรักของฉันเขามีชื่อว่า “ โจ”   ซึ่งเป็นสามีของฉันเอง  เป็นชายชาวสหรัฐอเมริกันโดยกำเนิด   

โดยในขณะที่ฉันย้ายมาอยู่กับเขาใหม่ๆ   ฉันกับเขาพวกเรายังไม่ได้แต่งงานกัน  พวกเราอยู่ด้วยกันในฐานะคู่หมั้นซึ่งก็เหมือนคู่รักที่ยังไม่แต่งงานทั่วไป ฉันมาอาศัยอยู่กับเขาได้เจอเรื่องแปลกมหัศจรรย์หลายเรื่อง เดือนแรกที่บ้านหลังเก่า วันแรกที่มาถึงที่เมืองนี้   โจคนรักของฉัน  เขาตอนรับฉันเป็นอย่างดี  ดูแลฉันทั้งอาหารและเสื้อผ้าที่ฉันใส่ ฉันมาถึงวันแรกเจออากาศหนาว แต่สำหรับโจเขาเป็นคนที่นี่ เขามักบอกกับฉันเสมอว่า อากาศไม่หนาวเลยกำลังอบอุ่นเย็นสบาย แต่สำหรับฉันแล้วมันหนาวมาก

 

เมื่อมาถึงวันแรก  โจเขาก็พาฉันทัวร์เดินเล่นรอบเมือง  ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ  สามารถเดินไปได้และเมืองนี้อยู่ติดทะเล มีอาคารบ้านเรือนปลูกห่างกันและอยู่ใกล้ชายหาดไม่ถึง  2 ไมล์ก็สามารถมองเห็นทะเล อาคารที่ปลูกเป็นการค้าพาณิิชย์ถูกสร้างขึ้นมีลักษณะความสูงไม่เกิน 2 ชั้น  โดยบ้านเรือนที่นี้ไม่มีรั้วล้อมรอบตัวบ้านเหมือนบ้านในประเทศไทย  เป็นบ้านที่มีพื้นที่เปิดอยู่ติดถนน 

ฉันสังเกตเห็น บ้านเรือนทุกหลังจะต้องมีถนนผ่านหน้าบ้าน ไม่ว่าตรอกซอกซอยเล็กหรือใหญ่ล้วนแล้วมีถนนเล็กๆ สร้างให้มีการเดินทางสะดวกสบายสำหรับบ้านแต่ละหลัง โดยมีถนนใหญ่เส้นสายหลักมีทางสองเลนคู่ขนาด  โดยเมืองนี้มีความสงบเงียบ สวยงามมาก  มีร้านค้าสำหรับให้ช้อปปิ้งและมีร้านอาหารติดๆ กัน ให้เราได้เลือกใช้บริการ   ฉันและโจพวกเราเดินไปทั่วเมือง และไปจบที่ชายหาด หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางกลับบ้าน   

 

มาถึงตอนนี้  เรื่องแปลกที่ฉันเจอ หลังจากฉันเดินเที่ยวทั่วเมืองนี้....คืนแรกที่เมืองนี้  ขณะที่ฉันอยู่หน้าบ้านช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า สำหรับที่นี่ยังไม่มืดท้องฟ้ายังสว่าง .. เรื่องมันเกิดขึ้นจากการทักทายคนแปลกหน้าของฉันในยามค่ำคืน...

 

ฉันทักทายชายแกคนหนึ่ง  ฉันเข้าใจว่าเป็นเพื่อนบ้านหรือญาติของโจคนรักของฉัน  ฉันทักทายเขา  โดยการทักทายของฉันถือเป็นเรื่องปกตินิสัยของฉัน เพราะฉันชอบพูดคุย  โดยเฉพาะที่ต่างประเทศแล้ว ฉันคิดว่าการเรียนรู้ภาษาที่ดีที่สุดคือการฝึกพูดภาษาบ่อยๆ  และการทักทายถือเป็นการแสดงความเป็นมิตรภาพที่ดีพร้อมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสในแบบฉบับคนไทย "ยิ้มสยาม"  นี่คือนิสัยของฉันและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้

 

มาเล่าต่อ ในคืนวันแรกที่ USA ฉันเห็นลุงชายแก  ซึ่งลุงชายแกกำลังเดินมุ่งหน้าเข้ามาข้างบ้านที่ฉันพักอาศัย โดยเขามาจากถนนฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่ฉันพักอาศัย  เขาเดินมาทางฉันเพื่อมุ่งไปที่บริเวณด้านหลังบ้านที่ฉันอยู่ โดยเขาต้องเดินผ่านไปทางข้างบ้านที่ฉันพักอยู่  

ตอนนั้นฉันเข้าใจว่าเขามีบ้านอยู่แถวนี้  และกำลังเดินทางไปบ้านหลังที่อยู่ติดกับบ้านที่ฉันพักอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นบ้านอยู่ด้านหลัง   โดยขณะนั้นฉันกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นหน้าบ้าน ฉันนั่งอยู่เพียงคนเดียว  ส่วนโจคนรักของฉัน  เขาเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปเอาน้ำดื่มมาให้ฉัน


เมื่อลุงชายแกเดินเข้ามาใกล้ฉัน ฉันสังเกตเห็นหลังของเขาดูค่อมลงเล็กน้อย เหมือนคนแก่ทั่วไปมักจะมีหลังคอมงอ เขาสวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีขาว สวมกางเกงวอร์มขายาวสีน้ำเงินอ่อน ฉันคิดว่าลุงแกท่านนี้น่าจะมีอายุประมาณ 70 ปี แกเดินช้าๆ พร้อมกับก้มหน้ามองที่พื้นดิน เมื่อเขาเดินมาถึงฉันก่อนที่จะเดินผ่านไป  ฉันเป็นผู้เริ่มทักทายก่อน   " Hi " พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ ด้วยมิตรภาพดีๆ  



โดยหลักการ คำกล่าวคำทักทายสำหรบคนฝรั่งแล้ว ผู้ที่ไม่รู้จักหรือคุ้นเคยกันมาก่อน ฝรั่งพวกเขามักทักทายกันด้วยคำว่า "Hello มากกว่า Hi" แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันมักทักทายกับทุกคนด้วยคำสั้นๆ ว่า "Hi" 



ลุงชายแก่ ที่ฉันทักทายเขา...เมื่อเขาได้ยินเสียงของฉันเรียก เขาเงยหน้ามองเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้หยุดเดิน  เขาคงเดินต่อไป โดยเดินผ่านฉันไปและไม่หันกลับมามองฉันอีก โดยเขายังคงเดินช้าๆ   



ฉันส่งคำทักทายครั้งที่สอง  “Hello How are you” คราวนี้  ลุงชายแก่ หันหน้ากลับมาหาฉัน และหยุดเดิน 

ฉันมองไปที่ใบหน้าของลุงชายแก่มีแสงสว่างสาดส่องไปที่ใบหน้าของเขา  ฉันจำใบหน้าเขาได้ดี เขามีใบหน้าดูสงบเรียบไม่่ยิ้มให้ฉันเลย แต่มีดวงตาที่จ่้องเขม่งมาที่ฉัน  เขาส่งภาษาดวงตาให้ฉัน  ดวงตาที่มองมาที่ฉันไม่มีแววตาเลย ใบหน้าสีซีด แก้มเป็นหลุม มีเนื้อนูนออกมาตามใบหน้า  

ลงชายแกเดินมาทางฉัน และเขาก็หยุดนิ่ง  เขาพูดอะไรหลายคำ  แต่ฉันฟังไม่ออก มันเป็นภาษาที่ฉันไม่รู้จักไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เสียงออกมาจากปากของชายแก่ แต่ทำไมปากของเขาไม่ขยับเลย แต่กลับมีเสียงลอดออกมาทำให้ฉันได้ยินเสียง แต่เสียงมันเบามากเป็นภาษาที่ฉันไม่เข้าใจ  และภาษานั้นก็ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ  ฉันฟังไม่เข้าใจ ฉันทำได้แค่ยิ้ม  เมื่อฉันไม่เข้าใจ  ลุงชายแก่พูดเสร็จเขาก็สายหน้าไปมาและเดินกลับไปด้านข้างหลังบ้านที่ฉันพักอาศัย และหายเข้าไปข้างใน


หลังจากนั้น ฉันได้ยินเสียงร้องดัง  เสียงชายคนนั้นเหมือนเสียงของโจคนรักของฉัน “ช่วยฉันที เข้ามานี้” 



เสียงนั้นมาจากบริเวณหลังบ้านที่ฉันพักอาศัย  ฉันจึงเดินตามเสียงไป   โดยฉันเข้าใจว่า เสียงนั้นเป็นเสียงโจคนรักของฉัน  เขาอยู่ที่นั่นกำลังเรียกฉันให้ไปที่นั้น  ฉันเดินเข้าไป ในระหว่างที่ฉันเดินเข้าไปตลอดทางมีแสงสว่างจ่าไปทั่วมองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่บ้านที่ฉันอยู่ก็มองไม่เห็นเลย  



เมื่อเดินผ่านแสงไปสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าของฉัน คือ บ้านหลังใหญ่สวยงาม  มีดอกไม้ปลูกรอบบ้าน สีหลากหลาย มีพืชพันธุ์จำนวนมากถูกจัดเรียงปลูกไว้ติดๆ กัน  เป็นแปลงเล็กแปลงน้อย ปลูกเป็นสวนดอกไม้ และมีพืชผักที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน 



ฉันเดินไปรอบๆ บ้านหลังนั้น ไม่ใช่บ้านที่ฉันอาศัย แต่มันเป็นที่อื่น ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันเดินดูสวนดอกไม้และดูสวนผักที่ถูกปลูกไว้มากมาย ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน  มันเป็นพืชไม้แปลกๆ  มีดอกไม้สีเหลือง ถูกปลูกเป็นแนวยาวอยู่ข้างรั้วรอบๆ บ้าน และเมื่อฉันมองไปรอบบ้าน  ฉันเห็นพื้นที่บางส่วนไม่มีต้นไม้เลย แต่ถูกตกแต่งด้วยหินสำหรับทำเป็นพื้นทางเดิน และเป็นหินสำหรับให้ผู้คนสามารถนั่งผักผ่อนได้ ตลอดทางเดิน  ฉันเดินไปตามพื้นหิน เพราะฉันไม่ต้องการเดินเหยียบต้นหญ้าที่มีดอกไม้อยู่ด้วย 



ขณะที่ฉันเดินไปนั้น ฉันเหลือบมองไปเห็นมุมน้ำตกและมีทางน้ำไหลเล็กๆ เป็นทางน้ำไหลยาวมาจากด้านหลังบ้าน  ฉันเดินไปจนถึงบริเวณด้านหน้าของบ้านหลังนั้น  ฉันยืนดู บ้านนั้นปลูกด้วยทรงบ้านสมัยใหม่สีขาว ทำด้วยอิฐประกอบกันเป็นบ้านทั้งหลัง มีหน้าต่างล้อมรอบ สร้างขึ้นสองชั้น มีีเสาใหญ่ 2 ต้นอยู่หน้าบ้าน ดูแล้วสง่าสวยงามมาก มีความกว้างมากกว่า  3 ตารางวา  มีกลิ้มดอกไม้ปลิวมาพร้อมลมพัดเข้ามาที่ใบหน้าของฉันมันหอมแต่ก็ทำให้ฉันขนลุก


ฉันเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น และมองหาโจคนรักของฉัน  พร้อมเรียก “โจ โจ โจ”  ฉันพูด 3 ครั้ง   แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาเลย   ฉันเดินเข้าไปในบ้านและมองดูรอบๆ ภายในบ้าน  ลักษณะบ้านที่ฉันเห็นภายใน มีห้องโถงโล่งใหญ่  มีโต๊ะชุดรับแขกตั้งอยู่ขวามือของฉัน  และมีโต๊ะโชว์เครื่องโบราณสิ่งของ  

ฉันมองไปด้านซ้ายมือของฉันเห็นเป็นรูปภาพขนาดใหญ่ตั้งอยู่  เป็นรูปชายหนุ่มรูปร่างสูงผิวขาวใบหน้ากลม มีจมูกเป็นสัน มีใบหูกางเล็กน้อย คิวหนาเข็มปลายคิวชี้ขึ้นฟ้าเล็กๆ  รูปปากเป็นกระจับนูน  ยิ้มในมุมปาก สวมใส่ชุดโบราณสีขาวยาวยุคสมัยหลุยส์ที่ 14 ของชาวฝรั่งเศส ใบหน้าคล้ายลุงชายแก่ที่ฉันพึ่งเห็นมาก่อนหน้า แต่ชายหนุ่มคนในรูปนี้เขาดูอ่อนวัยมากกว่า    



ในขณะที่ฉันกำลังดูรูปภาพอยู่นั้น มีเสียงคนเดินเบาๆ ช้าๆ มาทางฉัน พร้อมพูดขึ้นว่า “มาทำไมที่นี้ มาได้อย่างไร”   และปรากฏร่างของ ชายหนุ่มคนหนึ่ง หน้าตาเหมือนชายแก่ที่ฉันเห็น แต่เขาดูอ่อนวัยกว่าชายแก่ที่ฉันเห็น  ชายแก่ที่ฉันเห็นมีใบหน้าดูแก่มีอายุประมาณ 70 ปี แต่ชายหนุ่มที่ฉันเห็นตอนนี้ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันเขาดูหนุ่มราวๆ  25 ปี และเขามีหน้าตาเหมือนคนในรูปภาพที่ฉันกำลังมองดูอยู่นี้    



ฉันมองดูเขาและพลางคิดอยู่ในใจว่า ”ทำไมไม่เห็นชายแก่ และโจคนรักของฉันไปไหน คนนี้คือใคร”  โดยไม่ได้ตอบกลับเขาไป



คนที่ฉันกำลังพูดด้วยตอนนี้  คือ ใคร ลุงชายแก่คนนั้นไปไหน ชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร ทำไมเขามีใบหน้าคล้ายลุงชายแก่คนนั้น หนุ่มคนนี้มีใบหน้าตาที่คล้ายเหมือนลุงที่ฉันพึ่งเห็นเขามาก่อนหน้านี้  ขณะที่ฉันกำลังสงสัยคิดอยู่นั้น เสียงเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง  “นั่นคือฉัน”



เขาไม่ได้พูดภาษาที่ฉันฟังไม่ออก แต่เขาพูดภาษาที่ฉันเข้าใจด้วยจิต เขาพูดกับฉันด้วยจิต คือ ใช้ความคิด เขาพูดโดยไม่ได้ขยับปากเลย แต่มีเสียงออกมาจากตัวเขา 


ฉันตอบเขากลับไปด้วยความคิด  “นั่น คือ ฉัน ใครคือฉัน  แล้วทำไมถามแบบนี้ ”    ฉันคิดภายในใจของฉัน  พร้อมกับยังคง ..งง.. กับคำถาม 

ฉันคิดในใจอีก “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมฉันมาที่นี่ และที่นี่ที่ไหน”  ฉันกำลังมองหาโจ  เขาอยู่ไหน 

ฉันแค่คิดภายในจิตใจของฉัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจและรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่  ... 

“เมืองนี้ไม่ใช่ที่ที่เธออยู่ ไม่ใช่สถานที่ของมนุษย์”    มีเสียงออกมาจากเขา  นี่เป็นอีกครั้งที่เขาพูดโดยที่ปากของเขายังคงนิ่งอยู่  นี่เขากำลังใช้ความคิดคุยกับฉัน  ...ฉันฟังความคิดของเขาได้ และเขาก็เช่นกันฟังความคิดของฉันได้....


ติดตามอ่านตอนที่ 2  ต่อไปคะ 

ติดตามอ่านนิยายตัวอย่างฟรีนี่ ที่นี่  <<คลิก>>



ความคิดเห็น

ฮอต

รีวิว ซีรีส์ iQiyi มาแรง 2021 เรื่องคดีปีศาลแห่งเมืองไคเฟิง (No Boundary S1)

รีวิว iqiyi ซีรี่ย์ฮอต เรื่อง Never Say Goodbye (2021) รักนี้ไม่มีคำว่าลา

รีวิว ซีรี่ย์ละครประวัติศาสตร์เกาหลี Mr. Queen กระแสเรตติ้งร้อนแรง โด่งดังติดต่อกัน 2 ปี ตั้งแต่ปี 2020–2021